น้ำดื่ม และอาหาร ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

Last updated: 11 ต.ค. 2565  |  4506 จำนวนผู้เข้าชม  | 

น้ำดื่ม และอาหาร ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

Disclaimer : บทความนี้ เรียบเรียงจากบทความ และงานวิจัยต่างๆ เพื่อให้ผู้อ่านมีความรู้มากขึ้นเกี่ยวกับ ต้นตอของการเกิดมะเร็ง และ แนวทางต่างๆ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในเรื่องโภชนาการ แม้ในปัจจุบัน ก็ยังไม่มีวิธีทางการแพทย์ใด ที่สามารถรับรองผลการรักษามะเร็งได้ 100% ผู้อ่านจึงจำเป็นที่ต้องศึกษาเกี่ยวกับมะเร็งในหลายๆด้าน และพิจารณา ปรับใช้ในผู้ป่วยมะเร็งแต่ละท่าน แตกต่างกันออกไป


ก่อนจะหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ โรคมะเร็งใน Internet


เมื่อคุณเริ่ม  Search Google ที่เกี่ยวกับคำว่า "มะเร็ง" คุณจะเจอกับข้อมูลมากมายมหาศาล หลายศาสตร์ หลายแขนง และ ข้อมูลก็อาจมีความขัดแย้งกันอย่างสุดขั้ว เช่น เมื่อคุณต้องการศึกษาว่า "ผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ควรทานอะไร" คุณก็จะได้คำตอบที่แตกต่างกันถึง 2 แนว เช่น

แนวทางที่ 1. ไม่ควรทานเนื้อสัตว์ ให้ทานมังสวิรัติไปเลย เพราะเนื้อสัตว์ เป็นตัวเร่งกระตุ้นทำให้มะเร็งแพร่กระจายได้เร็วขึ้น เนื้อสัตว์เป็นอาหารของมะเร็ง

แนวทางที่ 2. ให้ทานเนื้อสัตว์ ทานโปรตีนเยอะๆ เพราะการรักษา ต่อสู้กับมะเร็ง ร่างกายจำเป็นที่ต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ยิ่งหากผู้ป่วยกำลังเข้ารับการรักษาด้วยการคีโมแล้วละก็ การเสริมอาหารประเภทโปรตีน เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก

จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 แนวทางนั้น มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยที่แนวทางแรก มักจะพบได้จากฝ่ายที่สนับสนุนการรักษามะเร็งแบบทางเลือก (Alternative Medicine) และแนวทางที่สอง ก็จะพบได้จากฝ่ายที่สนับสนุนการรักษาแบบปัจจุบัน (Modern Medicine) 



มีผู้ป่วยมะเร็งที่หายจากการเป็นมะเร็งในการรักษาทั้ง 2 แนวทาง และในทางกลับกัน ก็มีผู้ป่วยมะเร็งที่พ่ายแพ้กับการรักษาในทั้งสองแนวเช่นกัน เราจึงไม่สามารถที่จะฟันธงได้ 100% ว่า การรักษาแบบใดจึงจะดีที่สุดกับตัวเรา แต่คนที่จะสามารถตอบว่า แนวทางการรักษามะเร็งแบบใดเหมาะกับผู้ป่วยมากที่สุด ก็คือ “ตัวของผู้ป่วยเอง” 



หาต้นเหตุของการเป็นมะเร็งให้เจอ แล้วปรับการใช้ชีวิตประจำวัน


สาเหตุของการเป็นมะเร็งมีหลายประการ เช่น อาหาร อากาศ การได้รับสารพิษบางอย่างเป็นระยะเวลานาน และ พันธุกรรม เป็นต้น

คุณหมอฮิโรมิ ชินยะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ เคยกล่าวไว้ว่า สาเหตุที่เกิดจากพันธุกรรมนั้น จริงๆแล้ว อาจไม่ได้มาจาก DNA ซะทีเดียว แต่การที่คนในครอบครัวเดียวกันเป็นมะเร็งกันหลายท่าน มีผลมาจาก การกิน การอยู่ การใช้ชีวิตที่เหมือนๆกัน 

อากาศ น้ำ และ อาหาร ปัจจัยสำคัญ 3 อย่างในการดำรงชีวิต และ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งเช่นเดียวกัน 

ผู้ป่วยมะเร็ง จึงควรพิจารณา เกี่ยวกับ ปัจจัย 3 อย่างนี้เป็นอันดับแรกๆ


อากาศ : การขาดออกซิเจน (Hypoxia) ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง


Dr. Warburg (1924) ได้รับรางวัลโนเบล จากการที่ค้นพบว่า ภาวะที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ  หรือ Hypoxia ส่งผลทำให้เซลล์ปกติ กลายร่างเป็นเนื้องอก และมะเร็งได้ 

การได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก เช่น การได้รับยาบางอย่าง , ควันพิษ , แอลกอฮอล์ , อาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ , หายใจสั้นเป็นประจำ และอื่นๆ

หากท่านได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นมะเร็ง อย่างแรกที่ท่านควรพิจารณาในการจัดการ ชีวิตประจำวันคือ ควรทำให้ร่างกาย อยู่ในสภาวะที่จะมีอากาศดี มีมลภาวะน้อย ฝึกหายใจให้ลึก ออกกำลังกายแบบเบาๆให้เป็นประจำ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอยู่เสมอ การพิจารณาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรทำ

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก และหลายๆคนอาจลืมไปก็คือ เรื่องของการหายใจ ให้ลองสังเกตดูว่า เรากำลังหายใจสั้นอยู่หรือไม่ โดยปกติ คนเรามักจะหายใจสั้นอยู่บ่อยๆ เวลาทำงาน ขับรถ หรือทำกิจกรรมต่างๆ เราก็มักจะลืมหายใจแบบลึกๆยาวๆโดยไม่รู้ตัว การฝึกให้ร่างกายมีสติเรื่องการหายใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก การนั่งสมาธิวันละ 10-30 นาทีก็ช่วยให้เราหายใจได้ดีขึ้นเช่นกัน



น้ำ : น้ำที่เป็นกรด และน้ำที่มีสารเคมีต่างๆ ที่ส่วนที่ทำให้เกิดมะเร็ง


คนเราขาดอากาศ 3 นาทีเสียชีวิต ขาดน้ำ 3 วันเสียชีวิต แต่เราสามารถขาดอาหาร ได้นานถึงหลาย 10 วัน หากทีน้ำและอากาศที่เพียงพอ ยกตัวอย่าง เคสของน้องๆทีมหมูป่าที่ติดถ้ำ สามารถมีชีวิตรอดได้ถึง 9 วันโดยที่ไม่มีอาหารเลย แต่น้องๆ มีน้ำจากถ้ำที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม และ แมกนีเซียม

น้ำที่ควรเลิกดื่มทั้งหมดเลย คือ น้ำที่ไม่ใช้น้ำเปล่า น้ำหวาน และ น้ำที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เนื่องจากน้ำเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่จะมีสารเคมีเจือปนอยู่มากมาย

น้ำที่ควรดื่มคือ น้ำเปล่าที่สะอาด และ น้ำผัก ผลไม้ ที่คุณมั่นใจว่าเป็นการคั้นที่สดใหม่ สะอาด และมาจากวัตถุดิบที่เลือกมาอย่างดี และทำความสะอาดดีแล้วเท่านั้น

น้ำเปล่าดื่มได้เกือบทุกประเภท แต่น้ำเปล่าที่ไม่แนะนำให้ดื่มเลยคือ น้ำกลั่น และน้ำสะอาดที่มีค่า pH ต่ำกว่า 7 หรือน้ำที่มีความเป็นกรด เนื่องจาก ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง ไม่ควรเพิ่มเติมความเป็นกรดเข้าไปในร่างกาย

รู้หรือไม่ว่า น้ำเปล่า ก็มีหลายชนิด เห็นน้ำใสๆ ไม่มีรสชาตเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว มีคุณสมบัติในน้ำประเภทหนึ่ง ที่ดีต่อผู้ป่วยมาก นั้นคือ “น้ำไอออนไนซ์” (Ionized Water or Electrolyzed Reduced Water) น้ำไอออนไนซ์ เกิดจากกระบวนการผลิตที่เรียกว่า การ Electrolysis เป็นการเปลี่ยนคุณสมบัติน้ำสะอาดให้มีคุณสมบัติเพิ่มเติม คือ มีความเป็นด่างอ่อนๆ , มีประจุลบ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้ร่างกาย , มีกลุ่มโมเลกุลของน้ำที่เล็กลง และ มีแร่ธาตุต่างๆที่ร่างกายต้องการ


หนังสือ Killing Cancer Not People กล่าวว่า Ionized Water Could Save Your Life. หนังสือเล่มนี้ เขียนเกี่ยวกัยข้อมูลหลายๆด้านเกี่ยวกับมะเร็ง และ ในบทที่ 6 ของหนังสือ จะกล่าวถึงเรื่องของน้ำไอออนไนซ์โดยละเอียด สามารถอ่านบทความที่แปลแล้วได้ที่นี่ >> เครื่องผลิตน้ำไอออนไนซ์ ที่ดี่ที่สุดในโลก <<

ในหนังสือยังกล่าวด้วยอีกว่า เครื่องผลิตน้ำไอออนไนซ์ หรือ ที่คนไทยชอบเรียกง่ายๆว่าเครื่องทำน้ำด่าง สามารถหาซื้อได้มากมาย ราคาแต่ละยี่ห้อก็ต่างกันมาก แต่ผู้เขียนหนังสือ Killing Cancer Not People ก็ให้คำอธิบายไว้อย่างละเอียดว่า ทำไม เครื่องผลิตน้ำไอออนไนซ์ จากบริษัท Enagic หรือ เครื่องผลิตน้ำ Kangen Water ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นเครื่องที่ดีที่สุดในโลก แม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่เชื่อเถอะว่า การมีเครื่องผลิตน้ำไอออนไนซ์นี้ไว้ใช้ในบ้าน ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าทุกบาท ทุกสตางค์




น้ำด่าง รักษามะเร็ง ได้จริงหรือ? 

มีบทความมากมายเกี่ยวกับ น้ำด่าง รักษามะเร็ง บ้างก็บอกว่าให้บีบมะนาวลงในน้ำดื่ม จะทำให้น้ำเป็นด่าง และช่วยทำให้มะเร็งฝ่อ จะขอสรุปให้เป็นข้อๆดังนี้

  • การบีบมะนาวลงในน้ำ ไม่ได้ทำให้น้ำเป็นด่าง แต่ทำให้น้ำเป็นกรด เพราะ pH ของมะนาวอยู่ที่ pH 2 การทานน้ำผสมมะนาว จะทำให้ร่างกายได้ประโยชน์ในแง่ของวิตามินต่างๆในมะนาว แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการรักษามะเร็งแต่อย่างใด

  • น้ำด่างเข้มข้น แบบใส่ขวดมาขาย แล้วให้เราเอามาผสมน้ำกินอีกที อันนี้ก็ไม่ควรดื่ม เพราะ น้ำด่างเข้มข้น มักได้มาจากการผสมสารเคมีบางตัว หรือ หากเป็นน้ำด่างจากการหมักของขี้เถ้าตามธรรมชาติ ก็ไม่ควรดื่ม เพราะไม่สะอาด ผู้เขียน เคยเห็นคนไข้มะเร็งผสมน้ำแบบนี้ดื่ม ที่ขวดน้ำดื่มนั้น มีเชื้อราเป็นวงๆ ขึ้นที่ก้นขวดอีกด้วย

  • น้ำด่าง ที่ควรดื่ม ควรเป็นน้ำที่สะอาด สามารถทราบได้ถึงกรรมวิธีการผลิตที่แน่ชัด หรือหากไม่แน่ใจ สามารถหาซื้อน้ำแร่ยี่ห้อที่ดูได้มาตรฐานมาดื่มได้

  • น้ำสกัดต่างๆ ที่ขายกัน ไม่ควรดื่ม หากต้องการดื่มน้ำสกัดจริงๆ ให้ผลิตเองจะดีที่สุด
    หลักสำคัญของการเลือกน้ำดื่ม ทั้งน้ำเปล่า และ น้ำผัก ผลไม้ น้ำสกัด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง คือ ต้องแน่ใจ ในเรื่องของที่มา ที่ไป ของกระบวนการผลิตของน้ำเหล่านั้น 

    หากต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำ , เครื่องทำน้ำด่าง , เครื่องผลิตน้ำไอออนไนซ์ ก็ควรจะต้องศึกษาให้มั่นใจ ถึงกระบวนการผลิต มาตรฐานต่างๆที่ผลิตภัณฑ์ได้รับ มิเช่นนั้น เราก็จะได้ดื่มน้ำที่ไม่ดีเข้าไปอีก 



ผู้เขียนเคยเจอคนไข้ซื้อเครื่องทำน้ำด่างมา เพราะเชื่อว่าจะช่วยเรื่องของมะเร็ง และเป็นเครื่องผลิตจากประเทศจีน หลักจากใช้เครื่องไม่นาน รู้สึกว่าน้ำดื่มมีกลิ่น คล้ายสนิม คล้ายโลหะ เมื่อแกะเครื่องออกมา จึงพบว่า โลหะภายในเครื่องไม่ได้มาตรฐาน จึงเกิดการ oxidation มีลักษณะคล้ายการเกิดสนิม แผ่นโลหะในเครื่องจึงถูกกัดกร่อนปนเปื้อนมาในน้ำดื่ม ซึ่งกลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่ดี

หลักการดื่มน้ำที่ดี นอกจากต้องดื่มน้ำที่ดี มีคุณภาพแล้ว ปริมาณก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก คุณต้องดื่มน้ำให้ได้ 2-3 ลิตรต่อวัน เป็นอย่างน้อย เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ พอที่จะนำของดีๆเข้าสู่เซลล์ได้ง่าย และพอที่จะทำให้ล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ด้วย


อาหาร : ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมะเร็ง


หากคุณเป็นมะเร็งแล้ว เริ่มแรก คุณต้องย้อนนึกกลับไปดูก่อนว่า คุณมักทานอาหารอะไร ที่เหมาะแก่การเกิดมะเร็ง มากเป็นพิเศษหรือเปล่า อาหารแทบทุกอย่างที่เราทานทุกวันนี้ ล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลง และทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น ดังนั้น เราจึงต้องปรับ พฤติกรรมการทานอาหารในทันที

อาหารที่ควรเลิกรับประทานทันที คือ อาหารแปรรูป (Processed Food) อาหารทุกประเภท ที่ผ่านการแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก , แหนม, แฮม, อาหารกระป๋อง, อาหารในหีบห่อ, ขนม , เยลลี่ , และอื่นๆอีกมากมาย ยิ่งแปรรูปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งก่อให้เกิดผลเสียมากเท่านั้น ในชีวิตประจำวันของเราทุกวันนี้ การทานอาหารแปรรูป เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากมากๆ แต่หากคุณเป็นมะเร็งแล้ว คุณจำเป็นที่จำต้องหยุดอาหารเหล่านี้ทั้งหมด หรือ ทานอาหารที่แปรรูปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ผักสด และ ผลไม้ เป็นอาหารหลักที่ผู้ป่วยมะเร็งควรทานเป็นประจำ เพราะเป็นอาหารที่แทบจะไม่ได้แปรรูปเลย ก่อนรับประทาน ควรล้างผัก ผลไม้ให้สะอาดด้วยกรรมวิธีต่างๆ 

ข้าว ถั่ว ธัญพืช ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ควรรับประทาน แต่ถั่ว และ ธัญพืช แบบแห้งที่ขายกันทั่วไป บางครั้งก็อยู่ในร้านนานมาแล้ว อาจมีเชื้อรา เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ ควรพิจารณาเลือกซื้อให้ดี ควรซื้อในปริมาณน้อย และทานให้หมดไวๆ จะได้ทานของที่สดใหม่เสมอ

โปรตีนจากปลา อย่างไรก็ดีกว่า โปรตีนจากเนื้อแดงแน่นอน ให้เลือกทานเนื้อปลาเป็นหลัก ปลาตัวเล็กจะดีกว่าปลาตัวใหญ่ เนื่องจากปลาตัวใหญ่มักจะมีสารพิษตกค้างในเนื้อปลามากกว่า หากสามารถหาแหล่งจำหน่ายปลา หรือ อาหารทะเล ออแกนิคได้ก็จะดีมาก

หากเลือกได้ ทำอาหารเอง ก็จะดีกว่าทานอาหารจากร้าน เพราะเราสามารถควบคุมวัตถุดิบได้ทุกอย่าง รวมไปถึง อุปกรณ์ เครื่องครัวที่ใช้ในการประกอบอาหาร ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน การใช้หม้อ กระทะ และอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้โลหะคุณภาพดี จะทำให้อาหารของเรามีการปนเปื้อนของโลหะหนักน้อยลงไปด้วย

หลักสำคัญของการทานอาหารที่ดี คือ จะต้องเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการ cooking ให้น้อยขึ้นตอนที่สุด ทานอาหารให้ครบหมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม


อาหารเสริม : คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกอาหารเสริมของผู้ป่วยมะเร็ง


ผู้ป่วยมะเร็ง มักจะได้รับคำแนะนำมาจากหลายๆทาง เกี่ยวกับการเลือกซื้ออาหารเสริมต่างๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับมะเร็งได้ หากท่านกำลังพิจารณาอาหารเสริมอะไร ให้กลับขึ้นไปพิจารณาเกี่ยวกับเรื่อง อาหาร ที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ข้างต้น ลองศึกษาว่า อาหารเสริมนั้นๆ มีประโยชน์อย่างไร มีสารอาหารอะไร แล้วหากเราต้องการสารอาหารนั้น เราสามารถทานอาหารสดๆแทนได้ จะดีกว่าหรือไม่

อาหารเสริมบางชนิดก็อาจดีกับผู้ป่วยมะเร็งจริงๆ แต่ทั้งนี้ ผู้ป่วยต้องพิจารณาให้รอบคอบจริงๆ และหลังจากทานยา และ อาหารเสริมแล้ว อย่าลืม ดื่มน้ำที่ดีตามในปริมาณที่เพียงพอด้วย เพราะน้ำจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และก็จะทำให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้ดีขึ้นอีกด้วย



การขับถ่าย : วันนี้คุณขับถ่ายแล้วหรือยัง?


การขับถ่าย เป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายทุกคน ทั้งที่เป็นมะเร็ง และยังไม่เป็นมะเร็ง อาการท้องผูกเรื้อรัง จะส่งผลทำให้เกิดมะเร็งได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีของเสียสะสมอยู่ตลอดเวลา ร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน จึงต้องสังเกตให้ได้ว่า วันไหน ทานอะไร แล้วขับถ่ายได้ดี ให้ทานอาหาร แล้วขับถ่ายได้เป็นประจำ หากเริ่มมีอาการท้องผูก ให้ทานผัก ผลไม้ที่มีกากใยเยอะๆ ตอนเช้าให้ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 1 ลิตร จะทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น คุณหมอชาวญี่ปุ่น แนะนำให้ทำการสวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟร่วมด้วย หากมีอาการท้องผูก 



สรุป สิ่งที่ผู้ป่วยมะเร็งควรทราบก่อนหาข้อมูลต่างๆ


สาเหตุของมะเร็ง ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากมีหลายสาเหตุ หลายปัจจัยมาก ผู้เขียนเคยคุยกับหลายท่านที่ป่วยเป็นมะเร็ง และป่วยเป็นโรคอื่นๆ บางท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้เลย หลายท่านป่วย ชอบไปหาหมอ ตรวจร่างกาย รับยามาทาน บางครั้งก็หายจากโรคนี้ แล้วก็เป็นอีกโรคหนึ่งต่อ หากท่านเริ่มรู้สึกป่วยด้วยโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากความปกติในร่างกาย ให้ท่านลองทบทวนดูว่า ปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตเรา ดีพอหรือไม่ เราหายใจปกติไหม อยู่ในสภาวะอากาศดีไหม ทานอาหารคุณภาพดีไหม ทานอาหารตรงเวลาหรือไม่ ดื่มน้ำอะไรอยู่ ปริมาณเท่าไหร่ ขับถ่ายสะดวกไหม ทานยาเยอะไปหรือเปล่า ทานอาหารเสริมมากไปหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ทุกๆท่าน ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ และหากคุณกำลังเผชิญหน้ากับโรคมะเร็งอยู่ ผู้เขียนก็ขอเป็นกำลังใจช่วย ให้กลับมาแข็งแรงในเร็ววันค่ะ




Reference :

Book : The Rejuvenation Enzyme Dr. Hiromi Shinya, MD

Book : Killing Cancer not people 

https://stanfordhealthcare.org/medical-conditions/cancer/cancer/cancer-causes.html

https://en.wikipedia.org/wiki/Warburg_hypothesis

https://www.researchgate.net/publication/251610111_Advanced_research_on_the_health_benefit_of_reduced_water

https://www.nbcnews.com/health/health-news/evidence-links-highly-processed-food-cancer-death-rcna45713


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้